ทำไมต้องกดยอมรับบน “คุกกี้แบนเนอร์” ก่อนเข้าใช้งานเว็บไซต์ ?
นับตั้งแต่มีการประกาศ และบังคับใช้ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 อย่างเต็มรูปแบบ เมื่อปี พ.ศ.2565 องค์กร เจ้าของธุรกิจ รวมถึงผู้ประกอบการจำนวนมากที่มีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง ต่างรีบดำเนินงานจัดทำระบบขอความยินยอมเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ผ่าน “คุกกี้แบนเนอร์” ซึ่งผู้เข้าใช้งานจะต้องทำการกดตั้งค่า หรือยอมรับ นำมาสู่การตั้งคำถามว่า “แล้วทำไม? ผู้เข้าใช้งานต้องกดยอมรับ”
นั่นเพราะคุกกี้แต่ละประเภทจะมีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล คือ ไอพีแอดเดรส ที่จะนำไปสู่การระบุข้อมูลของบุคคล อย่าง ชื่อ นามสกุล อีเมล หรือเบอร์โทรศัพท์ได้ โดยเจ้าของเว็บไซต์สามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ประมวลผล หรือใช้ประโยชน์ในแง่ของการทำการตลาดได้ นี่ยังไม่รวมถึงกรณีที่มีการนำข้อมูลไปเผยแพร่ ส่งต่อ เพื่อประโยชน์ทางการค้า หรือ ขายให้กับมิจฉาชีพ ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล ที่อาจส่งผลเสียขั้นร้ายแรงถึงเจ้าของข้อมูลได้ ดังนั้นเราในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล จึงควรตระหนักถึงสิทธิของตัวเองเป็นอันดับแรก
และแม้กฎหมายจะยังไม่ได้มีการกำหนดออกมาว่า “คุกกี้แบนเนอร์” จะต้องเป็นไปในรูปแบบใด บ้างจึงเป็นการให้กดยอมรับ ขณะที่บางเว็บไซต์ออกแบบมาเพื่อให้มีการกดตั้งค่าการให้ความยินยอม เพื่อให้สอดรับกับกฎหมาย
โดยสาเหตุที่จะต้องให้เจ้าของข้อมูลสามารถตั้งค่าการให้ความยินยอมในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลได้ ก็เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกได้ว่าจะยินยอมให้เจ้าของเว็บไซต์ หรือองค์กรนั้น ๆ เก็บข้อมูลส่วนบุคคล หรือ นำข้อมูลไปประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์นั้น ๆ หรือไม่ ดังนั้นหากคุณกดยอมรับ หรือไม่มีการตั้งค่าคุกกี้ก่อน ก็เท่ากับว่าคุณให้ความยินยอมในการจัดเก็บข้อมูล หรือนำข้อมูลของคุณไปประมวลผล
ได้ทราบแบบนี้แล้ว ผู้เข้าใช้งานเว็บไซต์ท่านใดที่เบื่อหน่วยกับการกดตั้งค่าคุกกี้ หรือ กดยอมรับคุกกี้โดยไม่ได้อ่านรายละเอียด ก็อาจต้องเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ โดยควรที่จะอ่านรายละเอียด ทำความเข้าใจก่อนกด เพื่อรักษาสิทธิของตนในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ทั้งนี้ เจ้าของเว็บไซต์เองก็ควรให้ความสำคัญกับการจัดเก็บข้อมูลผ่านคุกกี้ และควรทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย PDPA เพราะนอกจากเพื่อความน่าเชื่อถือขององค์กร ยังช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล และหากคุณกำลังมองหาระบบที่ช่วยสร้างคุกกี้แบนเนอร์ ให้คุณปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง เราขอเสนอแพลตฟอร์ม OneFence ที่มีโซลูชัน Privacy Management ช่วยให้องค์กรบริหารจัดการความเป็นส่วนตัวของข้อมูลได้อย่างครอบคลุม
ทำไมต้องใช้ คุกกี้แบนเนอร์ ของ OneFence ?
OneFence ระบบบริหารจัดการความเสี่ยงด้านความปลอดภัย และการคุ้มครองข้อมูลตามกฎหมายแบบครบวงจร ครอบคลุมทั้งความปลอดภัยทางกายภาพและความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ ภายใต้ทีมพัฒนามืออาชีพของ Security Pitch
- Comply with PDPA Law : ปฏิบัติตามกฎหมาย PDPA อย่างถูกต้อง
- Centralize : รองรับการทำงานแบบรวมศูนย์
- Trust : สร้างความเชื่อมั่นให้กับองค์กร Automation : รองรับการทำงานผ่านระบบอัตโนมัติ
- Reduce the Risk : ลดความเสี่ยงการเกิดเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล
- Security On Cloud 100% : สร้างความเชื่อมั่นด้วยความปลอดภัยบนระบบคลาวด์
- Auto Update : ระบบอัปเดตอัตโนมัติ เพื่อให้เป็นไปตามประกาศของกฎหมาย
- Support on Cloud : รองรับการช่วยเหลือผ่านระบบคลาวด์
- Easy to Start : ใช้งานง่าย
- Complex to Make Easy : ลดความซับซ้อน ช่วยทำเรื่องยากให้ง่าย
เสริมเกราะด้านความปลอดภัย และความเชื่อมั่นให้องค์กรด้วยตัวช่วยเพื่อให้องค์กรสามารถปฎิบัติตามกฎหมาย PDPA ได้อย่างถูกต้อง อีกทั้งยังช่วยร่นระยะเวลา ลดปัญหาการทำงานซ้ำซ้อนในองค์กร และ การทำ PDPA จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป…
เชื่อมั่นในความปลอดภัย เชื่อมั่นใน OneFence
#PDPAคือ #PDPAThailand #พรบข้อมูลส่วนบุคคล #ข้อมูลส่วนบุคคล #SecurityPitch #Onefence #PDPAKit