รู้จักระบบป้องกันภัยโทรศัพท์ค่ายยักษ์ใหญ่
จะป้องกันภัยไซเบอร์จากมิจฉาชีพ หรือ จะหลบการสอดแนมจากแฮ็กเกอร์ ในโทรศัพท์มือถือทำได้แค่ไหน วันนี้เราจะมาแนะนำระบบป้องกันภัย ทั้ง Lockdown Mode ของ iOS และ Auto Blocker ของ Samsung ว่าแตกต่างกันหรือไม่ และการใช้งานระบบป้องกันภัยนี้ทำอย่างไร
ระบบ Lockdown Mode คืออะไร?
ระบบ Lockdown Mode ตัวเลือกการป้องกันขั้นสูงสุดที่ได้รับการออกแบบมา เพื่อคาดการณ์การโดนโจมตีจาก ภัยคุกคามในโลกไซเบอร์ โดยระบบนี้ถูกปล่อยออกมาตั้งแต่ iOS เวอร์ชัน 16.7.4 สามารถใช้งานได้ตั้งแต่ iOS 16 หรือ iOS เวอร์ชันปัจจุบัน
เมื่อเปิด Lockdown Mode ระบบจะเริ่มเข้าไปป้องกันตามแอปหรือฟีเจอร์ต่าง ๆ ของ Apple เช่น ในแอปข้อความ จะมีการบล็อกข้อความที่เป็นไฟล์ หรือ ลิงก์ต้องสงสัย รวมไปถึงไฟล์ภาพ เสียง ที่ส่งเข้ามา หรือเมื่อเข้าใช้เว็บไซต์ต่าง ๆ ระบบจะทำการปิดกั้นเว็บไซต์ที่น่าสงสัยทันที และอาจมีการป้องกันการดาวน์โหลดสคริปต์บางตัวที่สุ่มเสี่ยงหากมีการเชื่อมต่อ WiFi นอกที่อยู่อาศัย ระบบก็จะทำการปิดกั้น WiFi ที่คาดว่าจะไม่ปลอดภัยเช่นกัน
ฟีเจอร์ Lockdown Mode ยังถือเป็นฟีเจอร์ที่ Apple นำเสนอการป้องกันการโจมตีในรูปแบบ State-Sponsored Attackers หรือการโจมตีทางไซเบอร์ที่สนับสนุนโดยรัฐบาล เช่น การสอดแนมผ่านโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเคยมีกรณีที่เกิดขึ้นกับนักกิจกรรมชาวไทยในปี 2021 ที่ได้รับการแจ้งเตือนจาก Apple ว่ามีความพยายามเจาะเข้าระบบในลักษณะนี้
สำหรับวิธีการใช้งาน จะต้องเข้าไปที่ Setting จากนั้นเลือก Privacy & Security และเลือก Lockdown Mode เพื่อเปิดใช้งาน
นอกจากนี้ Apple ยังมีฟีเจอร์ Stolen Device Protection มาตรการป้องกันคนร้ายขโมยโทรศัพท์ และรู้รหัส PIN ของเรา โดยประกอบด้วยฟีเจอร์ย่อย ได้แก่ การบังคับยืนยันตัวตนด้วย Face ID/Touch ID ในคำสั่งสำคัญ และเพิ่มช่วงเวลาหน่วงหนึ่งชั่วโมง เมื่อสั่งเปลี่ยนรหัสผ่าน
ทั้งนี้ระยะเวลาในการเปลี่ยนรหัสผ่านจะบังคับเฉพาะเมื่อโทรศัพท์ของเราอยู่นอกพื้นที่ปกติเท่านั้น หากใช้งานในบ้านหรือที่ทำงานจะยังทำงานเหมือนเดิม สำหรับคำสั่งสำคัญที่ต้องใช้ Face ID/Touch ID ได้แก่ การดูรหัสผ่านใน Keychain, เปิดบัตร Apple Card, ดูเลขบัตร Apple Card, ปิด Lost Mode, ล้างข้อมูลในเครื่อง, ส่งคำสั่งใน Apple Cash, สั่งจ่ายเงินผ่าน Safari, และการโอนบัญชีไปยังอุปกรณ์ใหม่
ระบบ Auto Blocker ของ Samsung
ด้านคู่แข่งสำคัญอย่าง Samsung ก็มีระบบป้องกันของตัวเอง คือ Auto Blocker
ระบบ Auto Blocker สร้างมาเพื่อป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน Samsung Galaxy โดยเฉพาะการโจรกรรมประเภท Side loading ซึ่งเป็นการติดตั้งซอฟต์แวร์หรือแอปพลิเคชันจากแหล่งดาวน์โหลดอื่นที่ไม่ได้รับอนุญาต เพื่อป้อนคำสั่ง เจาะเข้าระบบของเครื่องผ่านรูปแบบต่าง ๆ เช่น SMS ที่มาพร้อมกับลิงก์หรือแอปพลิเคชันแชทต่าง ๆ และการดาวน์โหลดแอปที่ไม่ได้มาจาก Play store หรือ Galaxy store ซึ่งอาจมีมัลแวร์แฝงมาด้วย
ระบบ Auto Blocker ยังมีคุณสมบัติอื่น ๆ เช่น App protection สำหรับตรวจสอบ ปลอดภัยของแอปที่อาจเป็นมัลแวร์ก่อนติดตั้ง และตรวจสอบอัตโนมัติรายวันหลังติดตั้ง รวมถึงป้องกันการใช้คำสั่งที่อันตรายหรือติดตั้งซอฟต์แวร์ผ่านสาย USB เช่น การชาร์จโทรศัพท์ตามร้านคาเฟ่ หรือ สถานที่อื่นนอกบ้าน หรือ การใช้ USB ในการย้ายไฟล์งานข้ามอุปกรณ์
ล่าสุด Samsung ยังได้ร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำเสนอนวัตกรรม Auto Blocker เข้ามาช่วยเพิ่มความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้แก่ผู้ใช้งาน
สำหรับวิธีการเปิดใช้ฟีเจอร์ Auto Blocker (ตัวบล็อกอัตโนมัติ) เพียงแค่เข้าไปที่
- “Setting (การตั้งค่า)” เลือก “Security and Privacy (ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว)”
- เลือก “Auto Blocker (ตัวบล็อกอัตโนมัติ)” เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตอย่างสูงสุด
สอบถามข้อมูลผลิตภัณฑ์ “OneFence”
Tel. : 081-972-2500
Line : @securitypitch
Email : [email protected]